top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนLocal Connex

LARUNG GAR 2014 II

เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนการออกเดินทาง สัญชาตญาณนักสำรวจเข้าครอบงำ เราเดินออกจากโรงแรมแต่เช้าตรู่ ผู้คนเริ่มปรากฏ เด็กเล็กๆกำลังเดินทางไปโรงเรียน ใบหน้าแดงเรื่อเหมือนลูกมะเขือเทศ แน่นอนว่าหน้าตาผิวพรรณบ่งบอกเราอย่างชัดเจน ว่าพวกเค้าไม่ใช่ชาวจีนพื้นราบอย่างแน่นอน แต่เรากำลังเข้าใกล้พื้นที่ชาวทิเบตเต็มทีแล้ว หลังกวาดอาหารเช้าลงท้อง พาหนะสี่ล้อก็พาพวกเราไต่ระดับความสูงไปตามไหล่เขา มุ่งหน้าสู่ลารุงการ์ #Serta #Larunggar #China

มิถุนายน ปี 2014, เซอต๋า

ทัศนียภาพสองข้างทางเปลี่ยนไป ภูเขาหัวโล้นปรากฏ สิ่งมีชีวิตคล้ายควายแต่มีขนเริ่มมีให้เห็นประปราย ธงมนตราปลิวไสวตัดกับสีเขียวของพื้นหญ้าอย่างชัดเจน เจดีย์ทรงระฆังคว่ำขนาดย่อมที่คุ้นตากระจายตัวอยู่ทั่ว นี่เป็นสัญญาณให้ทุกคนรับรู้แล้วว่าอีกไม่นานจุดหมายจะอยู่ข้างหน้าเรา

ลารุงการ์ถูกมองเป็นชุมชนอิทธิพลของชาวทิเบต คนต่างชาติถูกทางการจีนจับตามองโดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อมวลชน

ก่อนรถเข้าด่านเมืองเซอต๋า เมืองที่ลารุงการ์ตั้งอยู่ ไกด์หนุ่มเริ่มหันมาสื่อสารกับทีม มีความกังวลบางอย่างแสดงออกให้เห็นผ่านบทสนทนา เค้าต้องการจัดลำดับการนั่งของทีมในรถ คนที่ใบหน้าดูออกเป็นชาวจีนมากสุดจะอยู่แถวหน้า ส่วนที่ดูแล้วไม่ใช่จะจัดให้นั่งอยู่แถวหลัง เหตุผลเบื้องลึกเกิดจากสถานที่แห่งนี้มีความเปราะบางทางชาติพันธุ์อย่างสูง เชื่อมโยงกลับไปเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ.1949 ทิเบตซึ่งเป็นรัฐเอกราชถูกกองทหารปลดแอกประชาชนของจีนเข้ารุกราน ผู้คนเรือนแสนถูกฆ่าตาย องค์ทะไลลามะผู้นำของรัฐและผู้นำทางจิตวิญญาณต้องเสด็จลี้ภัยไปยังเมืองดารัมซาร่าหรือเมืองธรรมศาลาของอินเดีย ลารุงการ์ถูกมองเป็นชุมชนอิทธิพลของชาวทิเบต คนต่างชาติถูกทางการจีนจับตามองโดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อมวลชน


รถของเราแล่นผ่านด่านเมืองเซอต๋าง่ายกว่าที่ไกด์หนุ่มกังวล ราวไม้คั่นถนนกลางทุ่งโล่ง ไม่มีแม้เงาของผู้คนอยู่เบื้องหน้า มีเพียงจามรีเป็นฝูงยืนกินหญ้าอย่างไม่สนโลกสนคนนับสิบตัว หรือนั่นคือเจ้าหน้าที่ใส่แมสคอตพรางตัว?




รถของเราเริ่มไต่ระดับความสูงอีกครั้งเข้าไปใจกลางหุบเขา เลนถนนถูกบีบให้แคบลง ปรากฏภาพพระสงฆ์เดินไปตามท้องถนน กระท่อมไม้ที่ดูราวกับกล่องไม้สีแดงถูกสร้างไว้ตามแนวเขาเริ่มมีให้เห็นประปราย ประเดี๋ยวภาพปรากฏข้างหน้าก็เปลี่ยนไป ทั้งหุบเขาเต็มไปด้วยกระท่อมไม้ตัดกับภูเขาหัวโล้นสีเขียวและท้องฟ้าสีครามกลายเป็นภาพ First Impression ให้กับทุกคนที่มาเยือนดินแดนแห่งนี้

กระท่อมหลังเล็กๆที่ปลูกติดกันเหล่านี้คือกุฏิของพระ ประเมินด้วยสายตาแล้วอาจมีเป็นเรือนหมื่น ชุมชนแห่งนี้มีการแบ่งเขตพื้นที่อาศัยเป็นสามส่วนหลัก พื้นที่ภิกษุสงฆ์อยู่ด้านบนสุด ถัดมาคือพื้นที่ภิกษุณี และฆราวาส แต่ละพื้นที่มีอาคารประกอบศาสนกิจแทบจะเป็นของตัวเอง

ในวันที่เราเดินทางมาถึงนั้นทุกตารางนิ้วของลารุงการ์นั้นเต็มไปด้วยภิกษุ ภิกษุณี ครองจีวรสีกรักแดงลูกหว้าเดินไปมา ในมือบ้างถือตำรา บ้างนับลูกประคำเพื่อกำหนดจิต บ้างถือกงล้ออธิษฐานพึมพรำภาวนา นอกจากนี้ยังมีผู้แสวงบุญจากภายนอกเดินทางมาร่วมพิธี “มนตราภิเษกพระวัชรสัตว์” ที่จัดต่อกันถึงเจ็ดวัน ลารุงการ์จึงคับคั่งและหนาแน่นไปโดยปริยาย

การเข้ามาศึกษายังลารุงการ์นี้ เริ่มต้นด้วยการสอบสัมภาษณ์เบื้องต้นทั้งประวัติส่วนตัวและจุดมุ่งหมายของการมาเรียน หลักสูตรพื้นฐานที่นี่คือวิชาภาษาทิเบต การโต้กระทู้ธรรม และหลักธรรมต่างๆ ไม่มีการสอนวิชาทางโลก ในวันที่เราเดินทางไปถึงนั้นอยู่ในช่วงพิธีมนตราภิเษก ภาพการโต้กระทู้ธรรมด้วยท่าทางยียวนของพระสงฆ์ที่เคยเห็นผ่านสื่อจึงไม่ปรากฏ ภิกษุ ภิกษุณี และฆราวาสต่างอยู่ในช่วงปฏิบัติศาสนกิจ คือการสวดมนต์เป็นหลัก

อาหารในเมืองเซอต๋าทำให้ทุกคนยิ้มได้อีกครั้ง เนื้อจามรีผัดเครื่องเทศ ผัดเต้าหู้ ซุปอะไรสักอย่าง ทำให้ทุกคนอิ่มท้อง

เราใช้เวลาในลารุงการ์พอสมควร ก่อนเดินทางกลับมาพักค้างคืนที่เมืองเซอต๋าซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่เกิน 20 กิโลเมตร เซอต๋าเป็นเมืองเล็กๆ บรรยากาศดูขมุกขมัว บนถนนมีพระสงฆ์เดินปะปนกับฆราวาส มีร้านอาหารปกติที่ไม่ได้ขายเฉพาะอาหารเจเหมือนในลารุงการ์ อาหารในเมืองเซอต๋าทำให้ทุกคนยิ้มได้อีกครั้ง เนื้อจามรีผัดเครื่องเทศ ผัดเต้าหู้ ซุปอะไรสักอย่าง ทำให้ทุกคนอิ่มท้อง ก่อนเข้าที่พักซึ่งมีพระสงฆ์เป็นเจ้าของ

วันรุ่งขึ้นเรากลับเข้าไปในลารุงการ์อีกครั้งเพื่อสัมภาษณ์พระสงฆ์ที่นิมนต์นัดหมายไว้ พร้อมกับเก็บภาพบรรยากาศชุมชนแห่งนี้เพิ่มเติม การทำงานที่รู้สึกไม่สบายอยู่ตลอดเวลากลับมาอีกครั้ง อาการปวดหัวอย่างหนัก ยาพาราก็ช่วยไม่ได้ มีเพียงความอดทนๆและใจเย็น แต่ทุกครั้งที่เดินขึ้นไปบนเนินเขาผ่านห้องน้ำรวมก็ทำให้ทุกคนอยากเกิดใหม่ แม้จะเข้าใจว่ากุฏิพระสงฆ์ไม่มีห้องน้ำในตัว พระทุกรูปต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน น้ำเป็นสิ่งที่หายากเพราะอยู่บนที่สูง กลิ่นของเสียจำนวนมหาศาลที่โชยมา สร้างความกระอักกระอวนให้กับทุกคนไม่น้อยในยามที่ร่างกายต้องการอ๊อกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองอย่างเร่งด่วน

ผู้ชมเหล่านั้นเดินไปมาเผ่นผ่าน บ้างกระพือปีกจิกตีกัน บ้างบินทะยานเหินเวหาไปรอบๆกองหิน

วันนี้เราได้พบพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของชาวทิเบต หลังออกจากลารุงการ์อีกครั้งรถของเราแล่นไปบนเนินเขาเปิดโล่ง มีรถสามถึงสี่คันแล่นอยู่ไกลออกไปเหมือนมดกำลังเดิน มีกองหินประหลาดชวนนึกถึงสโตนเฮนจ์ เมื่อขับรถมาถึงปรากฏผู้ชมนับร้อยจับกลุ่มนั่งรออยู่แล้ว ผู้ชมเหล่านั้นเดินไปมาเผ่นผ่าน บ้างกระพือปีกจิกตีกัน บ้างบินทะยานเหินเวหาไปรอบๆกองหิน สักพักมีรถนับสิบคันขับตามลงมาสมทบ

เรานั่งสังเกตการณ์นานพอสมควร หลังกองหินมีบางอย่างเกิดขึ้น มีเสียงสับบางอย่างดังขึ้น สัญญาณแรกที่รับรู้ได้คือกลิ่นที่โชยมาตามสายลม ฝูงแร้งฮือเข้าไปในกองหินนั้น “แร้งลง” เป็นอย่างนี้นี่เอง Sky Burial เป็นพิธีกรรมที่อุทิศร่างกายให้กับผู้อื่นเพื่อประโยชน์เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ไกด์หนุ่มบอกเล่าหลังจากพ่อของเขาเสียชีวิตก็นำมาทำพิธีนี้ตามเจตนารมณ์เช่นกัน #Skyburial


ปี 2014 ที่เราเดินทางไปถึง ลารุงการ์ดูใหญ่โต ศาสนสถานขนาดใหญ่ที่อาจเรียกว่าวิหารกำลังก่อสร้าง ไกด์หนุ่มเล่าว่านายทุนเชื้อสายทิเบตให้การสนับสนุนโครงการต่างๆในชุมชนแห่งนี้ ความโดดเด่นนี้สร้างความกังวลกับทางจีนไม่น้อย ไม่กี่ปีหลังจากนั้นข่าวการเข้าจำกัดพื้นที่และประชากรในลารุงการ์ก็ดังไปทั่วโลก เมื่อทางการจีนเข้าทำการรื้อถอนชุมชนบางส่วน เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าอนาคตชุมชนสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้จะดำเนินไปทิศทางไหน การประนีประนอม หรือการแตกหัก ทุกอย่างนี้ล้วนขึ้นอยู่กับพญามังกรที่เรืองอำนาจที่สุดในยุคสมัยของเรา

ดู 16 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page